Ed Sheeran กับเพลง “Drive” ที่ปลุกจิตวิญญาณความเร็วให้กับ F1
ถ้าพูดถึงสองโลกที่ดูเหมือนจะอยู่ห่างกันสุดขั้ว หนึ่งคือโลกแห่งเสียงดนตรี อีกหนึ่งคือสนามแข่งรถความเร็วระดับโลกอย่าง F1 แต่ในปี 2025 นี้ ทั้งสองโลกนั้นได้มาบรรจบกันอย่างน่าตื่นเต้นผ่านบทเพลงของ Ed Sheeran ที่มีชื่อว่า “Drive”
เพลง “Drive” ไม่ใช่แค่เพลงประกอบธรรมดา แต่มันคือซาวด์แทร็กหลักของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “F1: The Movie” ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่ง Ed เองได้บอกว่า เพลงนี้เขาแต่งขึ้นจากแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากได้ดูฟุตเทจของการแข่งขัน Formula 1
เขาต้องการเขียนเพลงที่ “เปิดดังๆ ตอนขับรถ” และสร้างอารมณ์ให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนอยู่หลังพวงมาลัยของรถแข่ง ด้วยจังหวะกีตาร์สุดเร้าใจและจังหวะดนตรีที่พุ่งทะยานไม่ต่างจากรถ F1 กำลังพุ่งเข้าเส้นชัย
การรวมตัวของศิลปินระดับโลก: มากกว่าเพลง แต่คือปรากฏการณ์
เบื้องหลังความสำเร็จของเพลง “Drive” ไม่ได้มาจาก Ed Sheeran เพียงคนเดียว แต่ยังรวมไปถึงการรวมทีมดนตรีระดับตำนานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีที่สมบูรณ์แบบ
- John Mayer: มือกีตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่ ผู้เรียบเรียงและเล่นกีตาร์ในเพลงนี้
- Dave Grohl: มือกลองแห่งวง Foo Fighters และอดีตมือกลองวง Nirvana มาตีกลองให้กับเพลงนี้ด้วยจังหวะอันทรงพลัง
- Pino Palladino: มือเบสระดับโลก ผู้เคยร่วมงานกับ Eric Clapton และ The Who
- Rami Jaffee: มือคีย์บอร์ดจากวง The Wallflowers และ Foo Fighters ที่ช่วยเติมความลุ่มลึกให้กับเพลง
การรวมตัวกันของเหล่าศิลปินเหล่านี้ ทำให้ “Drive” ไม่ใช่แค่เพลงประกอบภาพยนตร์ แต่เป็นบทเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ดิบของการแข่งขัน F1 ผ่านทุกโน้ต ทุกจังหวะ
แรงบันดาลใจจากคนรักหนังและคนรักการขับรถ
Ed Sheeran ไม่ใช่แค่นักร้องหรือนักแต่งเพลงเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่หลงใหลในโลกของภาพยนตร์อย่างแท้จริง และการทำเพลงให้กับภาพยนตร์ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยแต่งเพลง “I See Fire” ให้กับภาพยนตร์ The Hobbit ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงดังที่แฟนหนังและแฟนเพลงจดจำได้
กับโปรเจกต์ล่าสุด “Drive” Ed บอกว่าเขารู้สึกเหมือนเด็กที่ได้วิ่งเข้าโรงหนังไปพร้อมกับโน้ตเพลงในหัวที่กำลังพลุ่งพล่าน มันคือประสบการณ์ที่เขารัก และครั้งนี้เขาได้นำเสียงของสนามแข่งมาผสมกับเสียงดนตรีอย่างลงตัว
“ดนตรีกับภาพยนตร์ คือสองสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกมีชีวิต การได้แต่งเพลงให้กับ F1 ก็เหมือนฝันที่เป็นจริง” – Ed Sheeran
เพลง “Drive” จึงไม่ใช่แค่เพลง แต่มันคือการส่งต่อความหลงใหล ความมันส์ และความฝันของ Ed ผ่านเสียงเพลงที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้
F1 THE ALBUM: ซาวด์แทร็กแห่งความเร็วระดับโลก
“Drive” ของ Ed Sheeran เป็นเพียงหนึ่งในเพลงจากอัลบั้มที่ชื่อว่า “F1 THE ALBUM” ซาวด์แทร็กอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ “F1” ซึ่งจะเปิดตัวพร้อมกับภาพยนตร์ในวันที่ 27 มิถุนายน 2025 ผ่านค่าย Atlantic Records
อัลบั้มนี้ไม่ใช่แค่รวมเพลง แต่คือการรวมวิสัยทัศน์จากศิลปินหลากหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น…
- ROSÉ (BLACKPINK): กับเสียงร้องที่ถ่ายทอดความเข้มแข็งในโลกที่หมุนเร็วไม่หยุด
- Chris Stapleton: ผู้เติมความเป็นอเมริกันร็อกด้วยเสียงแหบเสน่ห์ที่เข้ากับภาพลักษณ์ของนักแข่งหัวแข็ง
- Roddy Ricch, Doja Cat, Don Toliver, Raye: กับบีทและเสียงร้องที่พาให้ทุกความเร็วของ F1 เข้าสู่ยุคใหม่ของดนตรี
- Tate McRae & Burna Boy: ผู้เชื่อมโลกดนตรีสากลเข้าไว้กับอารมณ์ของคนดูที่หลากหลายเชื้อชาติ
สิ่งที่น่าสนใจคือ อัลบั้มนี้มีโปรดิวเซอร์อย่าง Kevin Weaver ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซาวด์แทร็กภาพยนตร์ระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน และครั้งนี้เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะทุกเพลงถูกเลือกสรรมาอย่างประณีต เพื่อทำให้ “F1 THE ALBUM” เป็นมากกว่าเพลงประกอบหนัง แต่มันคืออารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ทั้งในและข้างสนามแข่ง
ดนตรีและความเร็วที่กลายเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อโลกของเสียงดนตรีมาเจอกับสนามแข่ง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพลง “Drive” ของ Ed Sheeran คือบทพิสูจน์ว่า เสียงกีตาร์หนึ่งเสียงสามารถทำให้หัวใจของแฟน F1 เต้นแรงได้ไม่แพ้เสียงเครื่องยนต์
เพลงนี้ไม่ใช่แค่ซาวด์แทร็ก แต่คือแรงผลักดันให้เราทุกคนอยาก “ขับเคลื่อน” ความฝันของตัวเอง — ไม่ว่าจะอยู่ในสนามไหนก็ตาม