“ทีมที่ 12” ใน F1: แค่ข่าวลือหรือใกล้ความจริง?

ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่สะเทือนโลก F1 แบบไม่ให้แฟน ๆ ได้พักหายใจก็คือการออกมาเปิดเผยของ Otmar Szafnauer ในพอดแคสต์ “Team Principal Podcast” เกี่ยวกับการตั้งทีม F1 ใหม่ ที่จะกลายเป็นทีมที่ 12 บนกริดในอนาคต

สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้ไม่ใช่แค่กระแสลือ แต่กลายเป็นข่าวที่น่าจับตา เพราะ Szafnauer คือบุคคลระดับแถวหน้าในวงการ F1 ที่ผ่านการบริหารทั้ง Aston Martin, Alpine และเคยสร้างทีมจากศูนย์มาก่อน แถมยังบอกว่ามีทั้งเงินทุนและพาร์ตเนอร์พร้อมแล้ว

ใครคือ Otmar Szafnauer และทำไมทุกคนถึงต้องฟัง?

Otmar ไม่ใช่ชื่อใหม่ในวงการ เขาเคยทำงานในยุคต้นของ BAR ซึ่งพัฒนาจนกลายเป็น Honda และ Brawn GP ก่อนจะกลายร่างเป็น Mercedes ยุคปัจจุบัน เขาเข้าใจว่าอะไรคือหัวใจของการสร้างทีมใหม่ ตั้งแต่การเริ่มต้นด้วยพนักงานไม่ถึง 5 คน จนไปจบที่ทีมระดับลุ้นโพเดียม

ในแผนล่าสุดนี้ เขาไม่ได้คิดจะมาแค่ในบทบาท “Team Principal” แบบเดิม ๆ แต่หวังจะถือหุ้นในฐานะผู้ร่วมเป็นเจ้าของ คล้ายกับสิ่งที่ Toto Wolff ทำกับ Mercedes ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่ใช่แค่ผู้บริหาร แต่จะมีอำนาจในการวางวิสัยทัศน์ระยะยาวด้วย

ทำไมต้องทีมที่ 12?

ปัจจุบัน F1 มีทีมแข่งขันทั้งหมด 10 ทีม โดยมีโควต้าสูงสุดที่ FIA กำหนดไว้ที่ 12 ทีม ดังนั้นจึงยังมีช่องว่างอีก 2 ทีมที่สามารถเพิ่มได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละทีมต้องผ่านทั้งเกณฑ์ด้านเทคนิค การเงิน และการบริหาร รวมถึงต้องได้รับการอนุมัติจาก FIA และ FOM (Formula One Management)

Otmar ระบุว่าการสร้างทีมใหม่อาจใช้เวลาราว 3-4 ปี ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จ้างบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยี แต่เขามั่นใจว่า หากมีการเตรียมตัวที่ดี ทีมของเขาจะสามารถแข่งขันได้จริงภายในปี 2028 หรือ 2029

ทีมใหม่จากศูนย์ หรือ ซื้อกิจการเดิม?

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ซาฟเนาเออร์เปิดเผยคือ เขาอาจไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะการซื้อทีมที่มีอยู่แล้วอาจคุ้มค่ากว่า ทั้งในแง่โครงสร้าง เครื่องมือ และใบอนุญาตที่ได้รับการอนุมัติจาก FIA แล้ว

ซาฟเนาเออร์กล่าวว่า ความต่างด้านต้นทุนระหว่างสร้างทีมใหม่กับซื้อทีมเดิมนั้นอยู่ราว 10-30% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเขาเปิดโอกาสทั้งสองทาง และกำลังชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้อยู่

จากแนวคิดสู่การลงมือ: แผนงานที่เริ่มมาแล้วกว่า 1 ปี

Szafnauer ยืนยันว่าทีมของเขาไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นคิดเรื่องนี้ แต่เดินหน้ามาเงียบ ๆ มากว่า 1 ปีแล้ว โดยมีจุดแข็งสำคัญ 3 ด้าน:

• เงินทุนที่มั่นคง: มีกลุ่มนักลงทุนจริงจัง พร้อมสนับสนุนการดำเนินการในระยะยาว ไม่ใช่แค่ปีสองปีแล้วหายไป
  
• พาร์ตเนอร์จากอุตสาหกรรมยานยนต์: ได้พูดคุยกับผู้ผลิตเครื่องยนต์บางรายแล้ว ซึ่งพร้อมจะร่วมพัฒนา Power Unit
  
• กลยุทธ์การเริ่มต้น: เปิดกว้างทั้งสองแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งทีมใหม่จากศูนย์ หรือการซื้อกิจการทีมเดิม
  

อุปสรรคสำคัญ: FIA, FOM และค่าธรรมเนียม 200 ล้านเหรียญ

แม้จะมีทีมในมือ แต่การจะเข้าสู่ F1 อย่างเป็นทางการไม่ได้ง่ายเหมือนการสมัครเข้าชมรม เพราะต้องได้รับการอนุมัติจากทั้ง FIA (สหพันธ์ยานยนต์สากล) และ FOM (เจ้าของสิทธิ์เชิงพาณิชย์ของ F1)

แถมยังต้องเตรียมเงินค่าธรรมเนียม “anti-dilution fee” หรือค่าป้องกันรายได้ทีมเดิมไม่ให้ลดลง ซึ่งตั้งไว้สูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวกรองชั้นดีที่ทำให้ F1 ไม่กลายเป็นเวทีของนักลงทุนสายปั่นกำไร

สิ่งนี้เองที่ทำให้การเข้าร่วมต้องใช้ทั้งเวลา แผน และการเมืองในระดับสูง ซึ่ง Szafnauer ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า “มันยาก” แต่เขาเลือกเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่ตอนนี้

ทีมนี้จะมาตอนไหน? 2028 หรือ 2029?

Otmar กล่าวว่าหากเดินหน้าเต็มที่ และได้รับการอนุมัติทันเวลา เป้าหมายคือปี 2028 หรือไม่เกิน 2029 ที่ทีมนี้จะลงสนามจริง โดยช่วงเวลา 3-4 ปีนี้จะถูกใช้สำหรับ:

• สร้างฐานปฏิบัติการ
  
• จัดหาทีมงานและวิศวกร
  
• พัฒนารถแข่งต้นแบบ
  

ใครที่ตาม F1 มานานจะรู้ว่าแม้แต่ทีมอย่าง Toyota, BMW หรือแม้แต่ Honda เองยังใช้เวลาหลายปีกว่าจะไปถึงระดับแถวหน้า การมีเวลาเตรียมการล่วงหน้าจึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าทีมนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ

โครงการทีม F1 ที่ 12 ที่นำโดย Otmar Szafnauer กำลังเดินหน้าอย่างเงียบ ๆ แต่มั่นคง แม้ยังต้องฝ่าด่านมากมาย แต่หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นการเปลี่ยนสมดุลของกริดในอนาคต F1 อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด