ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความฝันของแฟนฟอร์มูล่าวันชาวไทยที่จะได้เห็นรถแข่ง F1 วิ่งในบ้านเกิดดูเหมือนจะเป็นแค่ฝันลอยๆ แต่ล่าสุดบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะไม่เพียงแต่รัฐบาลไทยประกาศความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นจริง ยังมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงกับผู้จัดการแข่งขัน และเริ่มดำเนินการในระดับยุทธศาสตร์แล้วอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้จะพาไปอัปเดตทุกความเคลื่อนไหว พร้อมวิเคราะห์เบื้องลึกจากหลายมุม ทั้งมิติการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมการกีฬา ที่กำลังทำให้ “จัดแข่งขัน F1 ในไทย” ไม่ใช่แค่ข่าวลือ แต่เป็นจริงได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า
รัฐบาลไทยกับวิสัยทัศน์ “เจ้าภาพ F1” – มากกว่าการแข่งคือโอกาสชาติ
การจัด F1 ไม่ใช่แค่การแข่งขัน มันคือ “แพลตฟอร์มทางเศรษฐกิจระดับโลก” ที่สามารถกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยว นวัตกรรม และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวสำคัญในช่วงปี 2024-2025:
- รัฐบาลไทย นำโดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ลงนามใน MOU ร่วมกับตัวแทนจาก Formula One Group เป็นที่เรียบร้อย
- มีการแต่งตั้ง “คณะที่ปรึกษาต่างประเทศ” ซึ่งเป็นทีมงานมืออาชีพจากยุโรปและเอเชีย ที่มีประสบการณ์จัด Street Race มาแล้วทั่วโลก เช่น สิงคโปร์, โมนาโก, บากู
เป้าหมายของรัฐบาลไทย คือการจัดการแข่งขัน F1 อย่างเป็นทางการภายเร็วๆนี้
โดยจะเป็นสนามประเภท Street Circuit ใช้พื้นที่ในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก เพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุด ขณะเดียวกันก็พยายามควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
ใช้ “จตุจักร” เป็นสนาม? วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่กลางกรุง
แนวคิดการเปลี่ยนใจกลางกรุงเทพฯ โดยเฉพาะโซน “จตุจักร–เกษตร–ลาดพร้าว” ให้กลายเป็น Street Race Track กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้อย่างเข้มข้น
ประเด็นหลักในการวิเคราะห์พื้นที่:
- การจราจรและผลกระทบต่อประชาชนในบริเวณใกล้เคียง
- ความสามารถในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานถนนให้รองรับรถ F1
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะฝุ่นควัน เสียงดัง และพลังงานที่ใช้
ข้อเสนอสำรองหาก “จตุจักร” ไม่ผ่านเกณฑ์คือการใช้พื้นที่สนามบินเก่าหรือบริเวณชานเมือง
แนวทางนี้มีข้อดีคือสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้มากกว่า แต่เสียโอกาสด้านภาพลักษณ์และการตลาด เพราะไม่อยู่ในใจกลางเมือง

เงิน…ของใคร? งบประมาณและแรงสนับสนุนจากภาครัฐ–เอกชน
หลายคนอาจสงสัยว่า การจัด F1 ต้องใช้งบประมาณเท่าไร และใครจะเป็นคนจ่าย?
คำตอบคือ…เยอะ และต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน!
แหล่งงบประมาณหลัก:
- รัฐบาลไทย ผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- ภาคเอกชน โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ยานยนต์ และอสังหาริมทรัพย์
- สปอนเซอร์ระดับโลก ที่จะเข้ามาร่วมทุนหรือเป็นผู้จัดงานร่วม เช่น Red Bull, PTT, CP Group
คาดการณ์งบประมาณรวมเบื้องต้นอยู่ที่ 4,000-6,000 ล้านบาท สำหรับช่วง 3 ปีแรก
แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์, การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, ค่าจัดงาน และงบการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ทั่วโลก
แฟนมอเตอร์สปอร์ตว่าไง? กระแสในไทยที่กำลังพุ่งแรง
สิ่งที่เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญอีกอย่างก็คือ “พลังของแฟนคลับ”
ประเทศไทยมีฐานแฟน F1 มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการบูมของซีรีส์ Netflix: Drive to Survive และความนิยมในนักแข่งอย่าง Max Verstappen, Lewis Hamilton และ Lando Norris
ตัวเลขที่น่าสนใจ:
- กลุ่มแฟน F1 ในไทยมีมากกว่า 2 ล้านคนในปี 2025
- กลุ่มผู้ชมใหม่เกิดจากวัยรุ่น Gen Z ที่ติดตามผ่าน TikTok, YouTube และ Instagram
“ถึงเวลาที่ไทยจะมีสนามของตัวเอง ไม่ใช่แค่ไปเชียร์ที่สิงคโปร์ทุกปี” – หนึ่งในคอมเมนต์ยอดนิยม
บทสรุป: ใกล้ความจริงทุกที…แต่ก็ยังต้องลุ้น
แม้วันนี้เรายังไม่มีวันแข่งขันที่ชัดเจน แต่การมี MOU ร่วมกับ Formula One Group และการเริ่มกระบวนการศึกษาอย่างละเอียด ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เรามองเห็น “เส้นชัย” อยู่ลิบๆ ข้างหน้า
ประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อม และมีคนดูที่รอชม
ถ้าผ่านทุกเงื่อนไข และบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เราอาจได้ยินเสียงเครื่องยนต์ F1 กึกก้องกลางกรุงเทพฯ เร็วกว่าที่คิด