สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นเวทีเปิดฤดูกาลของการแข่งขัน Thailand Super Series 2025 (TSS 2025) ที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศรอคอย และหนึ่งในไฮไลท์ของสุดสัปดาห์นี้ต้องยกให้ แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทยลูกครึ่งมากประสบการณ์ ที่ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง
แซนดี้ในนามทีม B-Quik Absolute Racing จับคู่กับทีมเมทจอมเก๋า เฮงก์ กิกส์ (Henk Kiks) ลงสนามด้วยรถ Porsche 992 GT3 R พร้อมภารกิจเก็บแต้มเปิดหัวฤดูกาลให้ได้มากที่สุด ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างน่าประทับใจ เมื่อทั้งคู่คว้าอันดับที่ 4 และอันดับที่ 3 ในสองเรซแรกของฤดูกาล และขึ้นโพเดียมสำเร็จในเรซที่ 2 ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ
การแข่งขันสนามนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมทั้งในเรื่องรถ ความสัมพันธ์ของนักแข่ง และการตัดสินใจของทีม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับฤดูกาลที่กำลังจะดำเนินต่อไป

วิเคราะห์สองเรซสำคัญ กับจังหวะที่เปลี่ยนเกม
เรซแรก (วันเสาร์): ส่งไม้ต่อได้คม จบอันดับ 4 อย่างมีลุ้น
ในเรซวันเสาร์ ทีม B-Quik วางแผนให้ เฮงก์ กิกส์ เป็นคนเริ่มต้นการแข่งขัน โดยรักษาตำแหน่งได้อย่างนิ่งและแม่น ก่อนจะส่งต่อให้แซนดี้ในช่วงกลางเรซซึ่งถือเป็นจังหวะสำคัญ
แซนดี้ใช้ประสบการณ์ไล่กดดันกลุ่มหน้าจนขึ้นมาจบอันดับที่ 4 ได้สำเร็จ ท่ามกลางการขับเคี่ยวกับนักแข่งมือดีจากทีมอื่น ๆ โดยเฉพาะในรอบสุดท้ายที่แซนดี้พยายามบุกทะลวงจนเกือบแตะโพเดียม
เรซที่สอง (วันอาทิตย์): สายฝนเพิ่มความท้าทาย แต่ยังขึ้นโพเดียมได้สำเร็จ
เรซที่สองเปิดฉากด้วยสายฝนกระหน่ำหนัก แต่แซนดี้ซึ่งออกสตาร์ทในกริดที่ 2 ไม่แสดงอาการลังเลแม้แต่น้อย เขาโชว์สมาธิและทักษะท่ามกลางแทร็คเปียกด้วยความมั่นใจ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้เฮงก์ในช่วงหลัง ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่ต้องรักษาอันดับให้จบอย่างมีแต้ม
แม้จะโดนกดดันอย่างหนักจากรถคู่แข่ง แต่เฮงก์ก็ไม่หลุดฟอร์ม จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 3 และคว้าโพเดียมแรกของฤดูกาลให้ทีมได้สำเร็จ


เส้นทางของแซนดี้ในปี 2025: ฤดูกาลแห่งความหวังและเป้าหมายใหม่
สำหรับแซนดี้ ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เขาและทีมมีเป้าหมายชัดเจน — การคว้าแชมป์ประเภททีมและนักขับในรุ่น Super Car GT3 ซึ่งในอดีตเขาเคยทำได้มาแล้วถึง 3 ครั้ง (ปี 2019, 2020 และ 2022)
จากฟอร์มในสนามแรกแสดงให้เห็นว่าแซนดี้และ B-Quik ยังมีของ! การประสานงานระหว่างนักขับทั้งสองคนทำได้ดีเยี่ยม รถพร้อม คนพร้อม และความมั่นใจที่ได้จากผลการแข่งขันครั้งนี้ ย่อมเป็นแรงผลักดันให้พวกเขามุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม
- การเปิดฤดูกาลด้วยสองโพเดียม ไม่ใช่เรื่องฟลุค แต่สะท้อนถึงการเตรียมทีมที่เข้มข้น
- ความเข้าใจระหว่างแซนดี้และเฮงก์ทำให้ทีมมีเสถียรภาพ แม้ต้องเจอสภาพสนามที่คาดเดายาก
สนามต่อไปบางแสน: ด่านหินที่ทีมต้องเตรียมตัวให้มากขึ้น
หลังจากจบการแข่งขันที่สนามช้างฯ บุรีรัมย์ เส้นทางต่อไปคือ บางแสน สตรีท เซอร์กิต สนามเมืองชายทะเลสุดโหดที่ขึ้นชื่อเรื่องโค้งแคบ และความไม่แน่นอนของพื้นถนน
B-Quik รู้ดีว่านี่ไม่ใช่แค่สนามแข่งธรรมดา แต่คือหนึ่งในบททดสอบของความแกร่งของทีม และแซนดี้เองก็เคยมีผลงานดีในบางแสนมาก่อน การกลับไปอีกครั้งจึงถือเป็นโอกาสที่จะขยายความได้เปรียบต่อเนื่องจากสนามบุรีรัมย์
แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามการแข่งขัน บางแสน GP ได้ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคม 2568 แล้วเรามาลุ้นกันว่าแซนดี้จะรักษาฟอร์มเก่งนี้ไว้ได้หรือไม่!